29 สิงหาคม 2552

ขุมทรัพย์ของคุณครู


ครูมิใช่ช่างปั้นอันวิจิตร แต่ต้องคิดวาดวางกางแผนผัง
ครูมิใช่นายทุนหนุนกำลัง ต้องเก็งทั้งขาดทุนตุนกำไร
ครูมิใช่พ่อค้านายพาณิชย์ ดีดลูกคิดคาดการณ์ด้านไหนไหน
แต่ยังเป็นผู้ค้าอย่างเต็มใจ ยอมขาดทุนตลอดไปชั่วนิรันดร์
ครูมิใช่นักปกครองช่ำชองศึก แต่ก็คึกคะนองปกป้องขั้น
ครูมิใช่นักวิชาการเชี่ยวชาญครัน แต่โชกโชนด้วยผูกพันวิชาการ
ครูมิใช่นักแสดงโลกแสงสี แต่สวมบททุกที่ด้วยอาจหาญ
ครูมิใช่ผู้กำกับผู้บงการ แต่เฉียบขาดในแผนงานการบัญชา
ครูมิใช่นักพากย์ฝีปากจัด แต่สัมผัสการพากย์ยากจะหา
ครูมิใช่ผู้ทรงศีลธรรมจรรยา แต่เมตตาแผ่เผื่อเกื้อการุณย์
นี่แหละครูเป็นได้หลายสถาน ทุกเหตุการณ์ช่วยฉุดช่วยอุดหนุน
ช่วยเผื่อแผ่แก้ไขช่วยค้ำจุน ผู้มีคุณเปี่ยมแปรอย่างแท้จริง
*ผู้สร้างคน *
เป็นแสงธรรมนำทางสร้างชีวิต
เป็นผู้คิดสื่อสารงานศึกษา เป็นผู้รู้ประสิทธิ์วิทยา
เป็นศาสตราคอยคุ้มครองผองเด็กไทย ป็นแม่พิมพ์กำหนดบทบาทศิษย์
เป็นผู้ชี้แนวชีวิตที่ฝันใฝ่ เป็นผู้นำพาชาติปราศพิษภัย
ค่ายิ่งใหญ่เกินกล่าวขานคืองานครูการไหว้ครูคิดถึงครูผู้สอนสั่ง
คุณครูยังฝังจิตศิษย์ไม่หาย ด้วยมุ่งหมายให้ศิษย์ดีมีวิชา
การไหว้ครูคิดถึงครูเหนื่อยใจกาย ดัวยมุ่งหมายให้ศิษย์ดีมีวิชา
การไหว้ครูคิดถึงครุผู้เมตตา เจตนาเรามั่นในคุณครู
นับแต่นี้ศิษย์ฝึกตนตั้งต้นใหม่ สำรวมกายวาจาให้แน่นหนา
ไม่ให้ผิดต่อคุณครูผู้เมตตา ขอสัญญาพุทธบุตรหยุดต่ำทรามศิลปทั้งผองต้องฝึกหัด
ตามบรรทัดฐานเห็นเป็นปฐม วาทศิลป์เลิศล้ำคำนิยม
คมเหนือคมอาวุธใดในปฐพี ครูอาจารย์การพูดพิสูจน์แล้ว
อันดวงแก้วแจ่มจำรัสรัศมี แต่แรกมัวสลัวฝ้าเหมือนราคี


เช็ดขัดดีขึ้นมาจึงน่ายล“ชีวิตของคนเรานั้น…ไม่ยาวเลย
สู้ก้อนกรวดก้อนหินยังไม่ได้ เกิดมาทั้งที ตั้งเข็มทิศให้กับชีวิต
กำหนดทิศทางของตัวเองให้ชัดเจน จะเดินไปสู่จุดไหน
ค้นหาตังเองให้ชัดเจน จะเดินไปสู่จุดไหน
ค้นหาตัวเองให้เจอ และพยายามดำเนินมุ่งไปสู่จุดนั้นให้ได้ และที่สำคัญอย่าประมาท…
อย่าหลงตัวเองและอย่าหยุดยั้งการศึกษาหาความรู้อยู่ตลอดเวลา”

อยู่อย่างไร
อยู่อย่างสัตว์นรก
อยู่อย่างอสูรกาย
อยู่อย่างเปรต
อยู่อย่างสัตว์เดรัจฉาน
อยู่อย่างมนุษย์
อยู่อย่างเทพ พรหม
อยู่อย่างพระอริยะ

คนทำงาน พัฒนางาน

ทำงานด้วยความหลง = นรก
ทำงานด้วยความโลภ = เปรต
ทำงานด้วยความกลัว = อสูรกาย
ทำงานด้วยการบังคับ = เดรัจฉาน
ทำงานด้วยหน้าที่ = มนุษย์
ทำงานด้วยความดี = อริยบุคคล

- หัวไว - หันดูทีท่า
- ใจสู้ - เบิ่งตาลังเล
- หันเหหัวดื้อ - งอมือจับเจ่า
-ไม่เอาไหนเลย
เป้าหมาย ตนเอง ญาติ ชาวโลก

คนที่ไม่ต้องการ คนพาลชอบเดินผิดทาง
วางผิดที่
ดีผิดทำ
กล้าผิดถิ่น
กินผิดของ
มองผิดจุด
หยุดผิดกาล
ค้านผิดเรื่อง
เฟื่องผิดวัย
ใหญ่ผิดวัด
ผู้สร้างคน
เป็นแสงธรรมนำทางสร้างชีวิต
เป็นผู้คิดสื่อสารงานศึกษา
เป็นผู้รู้ประสิทธิ์วิทยา
เป็นศาสตราคอยคุ้มครองผองเด็กไทย
เป็นแม่พิมพ์กำหนดบทบาทศิษย์
เป็นผู้แนวชีวิตที่ฝันใฝ่
เป็นผู้นำพาชาติปราศพิษภัย
ค่ายิ่งใหญ่เกินกล่าวขานคืองาน ครู

แม่ปูสอนลูกลูกปู
แม่ปูสอนลูกปูดูอย่างแม่ ทั้งที่แท้ตัวเดินเกเที่ยวเฉไฉ
ลูกจะเดินตรงทางอย่างไร จะสอนใครเริ่มต้นสอนตนเอง !

ครูดี ๔ คุณลักษณะ
๑. รูปดี (รูปัปฺปมาณิกฺ )
๒. เสียงดี ( โฆสัปฺปมาณิกฺ )
๓. ประพฤติดี ( ลูขัปฺปมาณิกฺ )
๔. รู้ดี (ธัมฺมัปฺปมาณิกฺ ) เปิดของที่ปิด หงายของที่คว่ำ บอกทางแก่คนหลงทาง จุดประทีปในความมืด

โวหาร ๔
๑. เทศนาโวหาร
๒. พรรณนาโวหาร
๓. สาธกโหาร
๔. อุปมาโวหาร
ศิษย์ ๔ ชนิด
๑. หัวไวใจสู้ - บัวพ้นน้ำ
๒. รอดูจังหวะ - บัวปริ่มน้ำ
๓. พอจะแนะนำ - บัวในน้ำ
๔. ต้อยต่ำจำยอม - บัวติดตม ( บัว ๔ เหล่า )


รักโรงเรียนเหมือนบ้าน รักงานสอนเหมือนชีวิต รักลูกศิษย์เหมือนลูกจริง

วิธีการสอน
๑. ชี้หลัก - สันทัสฺสนา - วิชาการ
๒. ชักชวน - สมาทปนา - พิธีกรรม
๓. ปลุกใจ - สมุตฺเตชนา - เกม
๔. ให้เพลิน - สัมฺปหังสนา - เพลง

( ๔ ส. )
๑. รู้จักเลือกที่สอน
๒. รุ้จักเลือกอุปกรณ์
๓. รู้จักเลือกคนสอน
๔. รู้จักเลือกเรื่องสอน ( ๔ สบาย )

หลักการสอน ๑. ปริยัติ ๐ สอนให้รู้จัก
๒. ปฏิบัติ ๐ สอนให้รู้จริง
๓. ปฏิเวธ ๐ สอนให้รู้แจ้ง
( เป้าหมาย ) ๑.อิทธิปาฏิหาริย์๐ ปราบแล้วสอน
๒. อาเทสฺนาปากิหาริย์๐ ปลุกแล้วสอน
๓. อนุสาสนีปาฏิหาริย์๐ ประโลมสอน
(กลยุทธ์ )
พึ่งใคร จะหวังพึ่งพ่อแม่ก็แย่จัด
จะพึ่งวัดพระก็แย่ยากแก้ไข
จะพึ่งครูครูก็เลวเหลวแหลกไป
จะพึ่งใครกันดีหนอ ?

( ท้อใจจริง ! )
นักสู้ นักสู้…
ใครว่าเป็นกันได้ง่ายๆ มันต้องพร้อมทั้งใจและกายทีเดียว
ทุคนมีทั้งความดีและความชั่วอยู่ในตัวด้วยกันทั้งนั้น
เรามีหน้าที่เพียงทำเหตุเฉพาะหน้าให้ดีที่สุดเท่านั้น
ส่วนผลก้จะเกิดขึ้นเองตามเหตุปัจจัย
อย่าคิดว่าสิ่งที่ทำนั้นเป็นการทำเพื่อคนอื่น หรือ เพราะคนอื่นไม่ทำ
หรือเพราะคนอื่นใชให้ทำ ข้อสำคัญที่สุด อย่าคิดว่าที่ต้องทำหรือไม่ต้องทำนั้น
เป็นเพราะคนอื่นจะพอใจหรือไม่พอใจ ดังนั้นเป้าหมายของการเป็น
นักสู้ คือ … ต้องหาทางออกที่ดีที่สุดให้ได้ ก้าวต่อไป
ก้าวต่อไปต่อไปอย่าได้หยุด แม้สะดุดล้มลงไปอย่าใจฝ่อ
เป็นนักสู้ต้องสู้สิอย่ารีรอ อย่าย่อท้อหนทางยาวที่ก้าวไป
โน่นจุดหมายปลายทางอยู่ข้างหน้า จะเหินฟ้าข้ามเขาเอาให้ได้
มิหวั่นพลาดมิหวาดแพ้มิแคร์ภัย มิหวั่นใจมิหวั่นจิตสักนิดเดียว
สังคมไทย สังคมไทยจะดำรงคงอยู่ได้ เพราะคนไทยคอยปกปักเฝ้ารักษา
บำรุงชาติศาสน์กษัตริ์พัฒนา รวมอาสาพัฒนาจิตใจไทยทั้งปวง
ปัญหาความยากจนคนยากไร้
ปัญหาความยากจนคนยากไร้
ปัญหาความเจ็บไข้ภัยใหญ่หลวง
ปัญหาศีลธรรมด้อยคอยหลอกลวง
น่าเป็นห่วงอนาคตหรือหมดทาง
แผ่นดินทอง ต้องสร้างด้วย แผ่นดินธรรม
ในแผ่นไทย ที่มิใช่… แผ่นดินทาส ภายใต้ดวงอาทิตย์นี้…
ไม่มีอะไรที่น่าเสียใจไปยิ่งกว่า… การเสียเวลาไปทั้งวัน…
โดยตัวท่าน… ไม่ได้ทำอะไรเลย…

* บันไดสู่ความเป็นดาว *

เตรียมให้พร้อม ฝึกซ้อมให้ดี ท่าทีให้สง่า หน้าตาให้สุขุม ทักที่ประชุมอย่าวกวน
เริ่มต้นให้โน้มน้าว เรื่องราวให้กระชับ ตาจับที่ผู้ฟัง เสียงดังแต่พอดี
อย่ามีเอ้ออ้า ดูเวลาพอครบ สรุปจบให้จับใจ ยิ้มแย้มแจ่มใสตลอดการพูด
อย่า…อย่า…อย่า อย่าคิดว่าตัวท่านนั้นอ่อนแอ หรือคิดแต่ท้อแท้และแพ้พ่าย
จงคิดว่าจะแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยไป แกร่งทั้งกายและจิตใจไม่พรั่นพรึง
อย่าร้อนรนค้นหาความลำบาก จนกว่าความทุกย์ยากจะมาถึง
ถ้าวิตกทุกข์ร้อนนอนรำพึง เมื่อทุกข์ถึงทุกข์ทับทวีคุณ
อย่าแบกโลกเอาไว้ให้หนักบ่า อย่ากลัวว่าอนาคตไม่สดใส
อยู่ให้สุขแต่ละวันผันผ่านไป เก็บแรงใจไว้แก้ไขเมื่อภัยมา

ผู้นำ
นำรู้ นำทำ นำคิด คือชีวิตของเราผู้นำ
นำรู้ นำคิด นำทำ ๆ จะเป็นผู้นำต้องจำเอาไปคิดนำตน
นำคน นำงาน พัฒนาการ สังคม เศรษฐกิจ ทำอะไร อย่าให้หลงผิด ๆ
สำคัญที่จิตต้องมีคุณธรรม ( ซ้ำ )
ครองตน ครองคน ครองงาน มีอุดุมการณ์อยู่เป็นประจำ
ทำอะไรอย่าให้ตกต่ำ ๆ มีคุณธรรมประจำจิตใจ ( ซ้ำ )
แบ่งทำไม แบ่งพวก ทำให้เสียรัก
แบ่งพรรค ทำให้เสียสามัคคี
แบ่งทั้งพวกทั้งพรรค เสียทั้ง ความรักและความสามัคคี

จน ๔ อย่าง
๑. จนตรอกไม่มีทางไป
๒. จนใจไม่มีทางคิด
๓. จนแต้มไม่มีทางเดิน
๔. จนมุมไม่มีทางหนี

ผู้ชนะที่แท้จริง

ผู้ที่ชนะคนอื่นเป็น ๆ ในสงคราม ไม่จัดว่าเป็นผู้ชนะที่แท้จริง
แต่ผู้ที่ชนะ (ใจ ) ตนเองได้ นับว่าเป็นผู้ชนะสงครามที่ยอดเยี่ยม

เราจะทำในสิ่งที่ผู้อื่น เราจะอดทนในสิ่งที่ผู้อื่น
ทำได้ยาก เราจะสละในสิ่งที่ผู้อื่น สละได้ยาก
เราจะเอาชนะในสิ่งที่ผู้อื่น ชนะได้ยาก ที่สำคัญคือ
การชนะ ใจ ตนเอง พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่า อตตา หเว ชิต เสยโย
“ ชนะตนนี้แลดีกว่า ”

การฟังที่ฉลาด ? อย่าพึ่งเชื่อ ? อย่าปฏิเสธ ? จดจำ ? ศึกษา , ค้นคว้า ? หาข้อมูล , เหตุผล ? ปฏิบัติ , ทดลอง ? จนรู้ว่าอะไรถูกอะไรผิด

การศึกษา
การศึกษา เป็นพื้นฐานของชีวิต
การศึกษา เน้นความคิดมีเหตุผล
การศึกษา พัฒนาค่าของคน
การศึกษา เริ่มฝึกฝนคนให้ดี
การศึกษา ต้องศึกษาอย่าหยุดยั้ง
การศึกษา ต้องปลูกฝังเรื่องศักดิ์ศรี
การศึกษา ต้องฝึกใจไร้ราคี
การศึกษา ต้องมุ่งที่ความเป็นคน
การศึกษา ต้องใฝ่หาความถูกต้อง
การศึกษา พึงหมายปองบุญกุศล
การศึกษา ต้องสำนึกฝึกที่ตน
การศึกษา ต้องหลุดพ้นอวิชชา
“มุ่งหาความรู้ เชิดชูความเป็นไทย หลีกไกลอบายมุข”

ขอโทษ
การขอโทษมิใช่การพ่ายแพ้ จะเป็นความอ่อนแอก็หาไม่ การขอโทษคีอการชนะใจ เป็นความกล้าอันยิ่งใหญ่ของมนุษย์

หนึ่งนาที
การอบรมบ่มนิสัยให้ศิษย์นั้น เพียงวันละนาทีก็ดีถม
ศิษย์จะดีมีชื่อหรือล่มจม อาจเป็นเพราะอบรมหนึ่งนาที

ศิษย์ดี ดูที่ครูดี ครูดี ดูที่ศิษย์ดี

ถิ่นไทยในป่ากว้าง ห่างไกล แสงวัฒนธรรมใด ส่องบ้าง
เห็นเทียนอยู่รำไร เล่มหนึ่ง ครูนั้นแหละอาจสร้าง เสกให้ชัชวาลย์

เด็กวันนี้
เด็กวันนี้คือผู้ใหญ่ในวันหน้า ทำทีท่าแม้นละม้ายคล้ายพ่อแม่

ผู้ใหญ่ดีเด็กก็งามตามเหล่ากอ ผู้ใหญ่บ้าเด็กก็บอพอพอกัน

หลอก หลอก หลอก เราอาจหลอกคนได้ บางคน
เราอาจหลอกคนได้ บาวครั้ง เราอาจหลอกคนบางคนได้ ทุกครั้ง
แต่เราไม่อาจหลอกคนทุกคนได้ ทุกครั้ง
ความหายนะของชีวีต คือ แม้เราเริ่มหลอกแม้กระทั่ง … ตัวเอง

ยิ้มดี 4 อย่าง

เขาโกรธ เรายิ้มเขาแย่ เราโกรธ เขายิ้มเราเเย่ เขาโกรธ เราโกรธ ต่างแย่ เขายิ้ม เรายิ้ม สบายแน่

รู้ 4 อย่าง
รู้เรี่อง
รู้สึก
รู้สำนึก
รู้กระทำ


กระบวนการฝึกอบรม
ละลายพฤติกรรมมนุษย์ จุดประกายความคิด สะกิดความรู้สึก ปลูกสำนึกคุณธรรม นำสู่คุณภาพชีวิต

หนทางยังยาวไกล รีบเติมไฟเพื่อต่อสู้ ความกล้าพอมีอยู่ ไยสูเจ้าจึงหมดแรง
หลักชัยที่เราหมาย อย่าหลงไหลทำให้แจ้ง วันเดือนเลื่อนเปลี่ยนแปลง ชีวิตเราก็โรยรา
ฮึดสู้กันอีกใหม่ โถมกายให้แกร่งกล้า มุ่งมั่นในศรัทธา เพื่อเสริมแรงพลังใจ

เติบโต
ให้เธอเติบโตด้วยความกล้า ก้าวไปข้างหน้าฝ่าพงหนาม
ดวงใจมิหยุดพยายาม กล้าจักเดินตามหนทางตน
ให้เธอเติบโตดด้วยความคิด เรียนรู้ชีวิตทุกแห่งหน
ตรองด้วยปัญญาอันแยบนล

“รู้คิด รู้ค้น รู้ตนเอง”
วิถีชีวิต
การผ่านการพบการหลบหลีก ไม่ใช่เพียงเป็นแค่ความเคลื่อนไหว
จากก้าวทุกก้าวที่ยาวไกล กลายเป็นวึยเป็นวิถแห่งชีวิต
ปวดร้าวเป็นทุกข์สนุกสนาน มีการก้าวถูกและก้าวผิด
ต้องการดวงเทียนและเข็มทิศ เพื่อพิชิตทางชัยในชีวี
ต้องมีความรู้คู่ความคิด เป็นเข็มทิศดวงเทียนสองวิถี
ต้องมีความรู้คู่ความดี เพื่อชีพนี้มีค่าและงดงาม

เส้นทางผู้นำ
สวย ด้วยจรรยามารยาท
งาม ด้วยธรรมชาติมีน้ำใจไว้ศักดิ์ศรี
ดี ด้วยคุณธรรมนำให้ดี
สามสิ่งนี้เป็นคุณสมบัติที่ชัดเจน

มีมือจะใช้มือประคองถือแท่งเทียนธรรม
ส่องทางสว่างนำสู่ความหวังสังคมไทย
มีเสียงจะเปล่งเสียงอย่างแท้เที่ยงและเกรียงไกร
มีใจจะเทใจผดุงนามแห่งความดี

คนไม่ดี 9 ชนิด
โดดเดี่ยว ดื้อยา กบในกะลา น้ำชาล้นถ้วย ป่วยแล้วไม่รักษา แสวงหาแต่ประโยชน์ตน
มองคนในแง่ร้าย ใจกายไม่สะอาด เป็นทาสอบายมุข

ผู้ฟังชอบอะไร
รูปัปปมาณิกา ชอบรูปร่าง
โฆสัปปมาณิกา ชอบเสียง
ลูขัปปมาณิกา ชอบการแต่งกาย
ธัมมัปปมาณิกา ชอบสาระ
บันไดสู่ความเป็นดาว

เตรียมให้พร้อม ซักซ้อมให้ดี ท่าทีให้สง่า
หน้าตาให้สุขุม ทักที่ประชุมอย่าวกวน
เริ่มต้นให้โน้มน้าว เรื่องราวกระชับ
ตาจับที่ผู้ฟัง เสียงดังแต่พอดี
อย่ามีเอ้ออ้า ดูเวลาพอครบ
สรุปจบให้จับใจ ยิ้มแย้มแจ่มใสตลอดกาลพูด

ปิด ปิดหูซ้ายทะลุหูขวา ปิดตาสองข้าง ปิดปากเสียบ้าง จะนั่งนอนสบาย

สติคุม
เป็นคนดี จะต้องมี ซึ่งสติ
จะดำริ ก็ต้องมีสติมั่น
จะพูดจา ก็ต้องมี สติทัน
จะทำนั่น ทำนี่ สติคุม

คุณครูที่รัก

จากเทียนไขเป็นไฟฟ้าจ้าสว่าง จากเรือจ้างเป็นเรือยนต์กลสมัย
เป็นเรือบินเหมือนฝันเร็วทันใจ เป็นอุทัยเจิดจ้าฟากฟ้าทอง
เมื่อสังคมหมุนเวียนเปลี่ยนตามยุค ครูต้องปลุกกายใจให้ผุดผ่อง
ในยุคคนบูชาค่าเงินทอง ครูยิ่งมองปัญหาอย่างท้าทาย
จากรอยเท้าก้าวย่างบนทางก้าว ใช้ลบรอยสูญเปล่าไร้ความหมาย
ทุกย่างก้าวบนดินกรวดหินทราย จารึกคุณครูไว้ให้เรืองรอง


เติบโต
ให้เธอเติบโตด้วยความกล้า ก้าวไปข้างหน้าฝ่าพงหนาม
ดวงใจมิหยุดพยายาม กล้าจักเดินตามหนทางตน
ให้เธอเติบดตด้วยความคิด เรียนรู้ชีวิตทุกแห่งหน
ตรองด้วยปัญญาอันแยบยล

รู้คิด รู้ค้น รู้ตนเอง

ครูคือเทียนทองส่องสว่าง ท่ามกลางความมืดมัวหม่น
ครูคือปูชนียบุคคล ปวงชนซาบซึ้งศรัทธา
ครูจึงมิใช่ลูกจ้าง อำพรางสอนสั่งบังหน้า เบื้องหลังเป็นทาสเงินตรา ไขว่คว้าอำนาจลาภยศ
ครูจึงเป็นวีรบุรุษ สัปประยุทธ์ความชั่วทั้งหมด ครองใจครองธรรมงามงด ปรากฏแก่ตน

คนเป็นครู เราจะทำในสิ่งที่ผู้อื่น ทำได้ยาก เราจะอดทนในสิ่งที่ผู้อื่นทนได้ยาก
เราจะสละในสิ่งที่ผู้อื่นสละได้ยาก เราจะเอาชนะในสิ่งที่ผู้อื่นชนะได้ยาก ที่สำคัญคือ การชนะใจตนเอง
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่า อตฺตา หเว ชิตฺ เสยโย ชนะตนนี้แลดีกว่า

เกิดมาทั้งที จงเอาดีให้ได้ จะตายทั้งที จงฝากดีเอาไว้

ภาระครูเกินถ้อยจะร้อยขาน ครูบันดาลศิษย์ให้ไกลมัวหมอง
สร้างเด็กไทยดีงามตามครรลอง สร้างสมอง สร้างพลัง คลังปัญญา
ครูรู้คิดรู้ทำนำไปใช้ ครูสอนให้สร้างสรรค์ แก้ปัญหา
จากดวงใจสูเจตน์แห่งเมตตา ชาติก้าวหน้ามาบัดนี้เพราะมีครู

ประตูสู่ความสำเร็จ

มนุษย์สัมพันธ์ดี รับผิดชอบต่อหน้าที่เชื่อมั่น
ความคิดสร้างสรรค์ แก้ปัยหาเฉพาะหน้าได้ อดทนเสียสละ
อารมณ์ร่าเริงแจ่มใส มีความรักให้ ซื่อสัตย์
รับฟังความคิดเห็น
จงดูธรรมชาติเถิด
ธรรมชาติทำงานอยู่ตลอดเวลา
ไม่หยุดเลยแม้สักชั่วขณะหนึ่ง
แต่ธรรมชาติก็ไม่พูดเลย
ภายใต้ดวงอาทิตย์ดวงนี้ จะมีอะไรน่าเสียใจไปยิ่งกว่า….. การเสียเวลาไปทั้งวัน
โดยตัวท่าน ไม่ได้ทำอะไรเลย

อันลิงค่างกลางป่าจับมามัด
สารพัดฝึกได้ดังใจหมาย
เกิดเป็นคนควรฝึกหัดดัดใจกาย
ถ้าฝึกตนไม่ได้ก็อายลิง

ชีวิต
อุปมาประดุจเทียนเล่มน้อยนี้ ซึ่งพร้อมที่จะส่องแสงทุกแห่งหน
ถึงแม้ว่าจะต้องคร่าชีวิตตน ขอเพียงคนอื่นสุขกันเท่านั้นพอ เพื่อนเอย…..
จงพยายามอีกนิด ความสำเร็จกำลังรอท่านอยู่
สามัคคีรักกันฉันท์พี่น้อง เรื่องมัวหมองข้องใจไม่ถือสา
ให้อภัยยกโทษไม่โกรธา ต่างเมตตารักกันไม่ฟั่นเฟือน
แม้ผิดบ่างพลั้งหน่อยอย่าพลอยซ้ำ ให้ระกำช้ำจิตคิดเหหัน
ควรผ่อนสั้น ผ่อนยาวเข้าหากัน ความผูกพันฉันท์น้องพี่นี้ดีเอย

มีไหมใครเลยไม่เคยพลาด แม้เก่งกาจฉลาดเลี่ยงสักเพียงไหน เมื่อหนทางที่ต้องก้าวอีกยาวไกล
มากหนามไหน่หลุมพรางระหว่างเดิน ขอมีเพียงหัวใจที่ไม่ท้อ มุ่งตรงต่อธรรมสัจจ์ไม่ขัดเขิน
อุปสรรคหนักหนากล้าเผชิญ ทุกข์เหลือเกิน…..ต่อแต่นี้จงคลี่คลาย

เมืองเถื่อน เมืองใดไม่มีทหารหาญ เมืองนั้นไม่นานเป็นข้า
เมืองใดไร้จอมพารา เมืองนั้นไม่ช้าอับจน
เมืองใดไม่มีพาณิชย์เลิศ เมืองนั้นย่อมเกิดขัดสน
เมืองใดไร้ศิลป์โสภณ เมืองนั้นไม่พ้นเสื่อมทราม
เมืองใดไม่มีกวีแก้ว เมืองนั้นไม่แคล้วคนหยาม
เมืองใดไร้นารีงาม เมืองนั้นสิ้นความภูมิใจ
เมืองใดไม่มีดนตรีเลิศ เมืองนั้นไม่เพริดพิศมัย
เมืองใดไร้ธรรมอำไพ เมืองนั้นบรรลัยแน่เอย

วิถีชีวิต

การผ่านการพบการหลบเลี่ยง มิใช่เป็นเพียงแค่ความเคลื่อนไหว
จากก้าวทุกก้าวที่ยาวไกล การเป็นวัยเป็นวิถีแห่งชีวิต
ปวดร้าวทนทุกข์สนุกสนาน มีการก้าวถูกและก้าวผิด
ต้องการดวงเทียนและเข็มทิศ เพื่อพิชิตทางชัยในชีวี
ต้องมีความรู้คู่ความคิด เป็นเข็มทิศดวงเทียนส่องวิถี
ต้องมีความรู้คู่ความดี เพื่อชีพนี้มีค่าและงดงาม
คิดก่อนทำ คิดก่อนจึงค่อยทำจงจำไว้ ทำอะไรต้องคิดทั้งหน้าหลัง
อย่าปล่อยตัวให้ทำตามลำพัง ต้องเอาใจใส่เหนี่ยวรั้งทุกครั้งไป
ก่อนจะทำสิ่งใดใจต้องคิด ถูกหรือผิดทำอย่างนี้ดีหรือไม่
ถ้าหากเห็นว่าไม่ดีอย่าทำไป จงหาทางทำใหม่ทำให้ดี

แด่ครูผู้สร้างชาติ

เปลวเทียนอาบไอละมุนกรุ่นกลิ่นธูป วะวับวูบแววหวามน้ำค้างใส
เกาะกุมกลุ่มเกรียกรายกระจายไป บนกลีบดอกเล็กใหญ่ให้ละลาน
สองมือน้อยประคองพานคลานมานั่ง ยกมือตั้งน้อมจิตอธิษฐาน
ขอพรแห่งเทพสถิตย์ ณ ทิพย์พิมาน เป็นพยานต่อกตเวทีมีในใจ
มะเขือเอ๋ยดอกเจ้าเอยเคยแต่ก้ม เจ้าเหนี่ยวโน้มนบนอบหนอต่อต้นใหญ่
จะกองสุมกลุ่มดอกมะเขือเพื่อเตือนใจ ครูสอนสั่งเพราะหวังให้ได้ศิษย์ดี
เข็มไซร้เข็มเจ้าคมสมดังชื่อ ใครเล่าคือผู้ฝนทั่งเป็นดังนี้ ให้รู้ผิดรู้ชอบกรอปกรรมดี
พระคุณนี้ปานฟ้าและสาคร จึงวางพานดอกไม้ลงตรงหน้า
ด้วยศรัทธาศิษย์จดจำทุกคำสอน เปรียบบิดามารดาเอื้ออาทร
ดับทุกข์ร้อนแก่ศิษย์ได้ทุกคน

คตินักพัฒนา
จะปลูกพืชต้องเตรียมดิน
จะกินต้องเตรียมอาหาร
จะพัฒนาการต้องเตรียมประชาชน
จะพัฒนาคนต้องเตรียมที่จิตใจ
จะพัฒนาใครเขาต้องพัฒนาที่ตัวเราก่อน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น