ผมตั้งใจเข้ามาเขียนบล๊อกทุกวัน แต่ความคิดกับการปฏิบัติไม่ค่อยไปด้วยกัน หันกลับมาอีกที วันที่เปลี่ยนไปจนตามกลับมาไม่ได้
ไม่มีใคร นำกลับคืนมาได้ รวมทั้งผม มันคือชีวิตจริง ๆ ของคนเรา ผมตั้งใจจะเชียนอะไรในวันครบรอบวันเกิด
เหตุผลที่ผมเกริ่นนำ โนนบ้างนี่บ้าง โอกาสแห่งฤกษ์ยามผ่านไปจนผมต้องมาพูดว่าเสียดาย
อย่างอื่นหามาทดแทนได้หมด แต่เวลานี่สิ ผมจนใจจริง ๆ รอบ 45 ปี ในชีวิตของคนที่ไม่เคยหยุดนิ่ง
จึงรู้สึกว่า มันมีค่ามหาศาล มองไปข้างหน้า และรอบ ๆ ข้างรู้สึกว่า มันเหลือเวลาไม่มาก
บางครั้งรู้สึกว่า ไม่อยากพักผ่อน ไม่อยากให้มีหลับ ไม่อยากให้มีนอน สิ่งที่อยากทำมันมีมาก จนไม่รู้ว่า อยากทำอะไรก่อนหลัง
สุดท้าย ในหนึ่งวัน บางครั้งรู้สึกว่า ไม่ได้ทำอะไรอย่างที่ตั้งใจเลย
ย้อนกลับไปสู่วันที่อยากเขียนบล๊อกมากที่สุด ก็คือวันที่ 9 ที่ผ่านมา
นับย้อนกลับไป เมื่อวันที่ 9 เดือนกันยายน 2507
มันมีความหลัง ... ที่ ค่อนข้างเลือนลาง จนบางอย่างในชีวิตผมหายไป ถ้านำมาเล่าคงกระท่อนกระแท่น
อาจไม่ได้เนื้อหาเท่าใดนัก เป็นอันว่า คิดเรื่องใดได้ ก็จะเล่าสู่ฟัง เรื่อย ๆ
ขอออกตัวว่า ไม่สลักสำคัญอะไร ไม่อวดอ้างหรือคิดว่า จะได้อะไรจากเรื่องราวในชีวิตของตัวเอง
.... เก็บไว้เงียบ ๆ ก็เลือนหายไป กับกาลเวลาเหมือนสายลม สายน้ำ
นั่งดูละคร เป็นชีวิตของเขา หันมาดูตัวเรา คล้ายบ้าง บางส่วนก็ไม่เหมือน
การมีชีวิตอยู่บนความแร้นแค้น ... ตามยถากรรม หามื้อกินมื้อ ตามท้องไร่ ท้องนา ชายทุ่ง
หาได้มีกิน หาไม่ได้ อด ... จะบอกว่า จนก็ไม่ใช่ เพราะมันเหมือนกันหมด ไม่รู้ว่าทั้งภาคหรือเปล่า
ทุกก้อนเลือดที่มันกลั่นออกมาเป็นชีวิตของผม จึงข้นและกร้านแข็ง ร่องรอยนั้นยังอยู่ เธอยังอยู่
รอยปูดโปนบนเส้นเอ็น เหี่ยวย่น เส้นผมหงอกขาว ริ้วรอยของการสู้ชีวิต ของเธอ หนึ่งในหกชีวิตที่เธอบรรจงสร้างขึ้นมา
ก็คือ.....ผม
บนความทุกข์ยากแสนเข็น ความโหดร้ายของธรรมชาติบนผืนแผ่นอีสานในยุคโน้น ความแห้งแล้งและอดอยาก
ยายมีลูกสองคน ขาดสามีช่วยหาเลี้ยงชีพ ความยากลำบากของแม่จึงเท่าทวีคูณ มาตั้งแต่เล็ก ...
บ้านเล็ก ๆ หลังคาสังกะสี ฝาขัดไม้ไผ่ ... ชีวิตหลังแต่งงานกับหนุ่มในหมู่บ้าน ของคุณแม่ ก็เหมือนชาวบ้านทั่วไป
หาเช้ากินค่ำ ...
อุ้มกระเตงลูกน้อยสู่ทุ่งนา ...
ปล่อยเล่นตามทุ่งนา ริมน้ำ มือปักดำ หลังสู่ฟ้า ... วันแล้ววันเล่า
ความใฝ่ฝัน คนบ้านนอกจบแค่ ป.4 ความคิดของเธอล่องลอยไปไกล และเต็มไปด้วยความหวัง
ลูกคือความหวังของเธอทั้งชีวิต ....
เธอคิดได้อย่างไร เธอทำได้อย่างไร เมื่อลูกโตขึ้นเข้าสู่วัยเรียน
เธอขายควาย จำนองที่นา หายืมเงินชาวบ้าน สามีเธอ ไปขายแรงงาน ทุ่มสุดชีวิต
เพียงเพื่อให้ลูกมีเงินไปเรียนหนังสือ ซึ่งชาวบ้านที่ยากจนทั่วไปเขาไม่ทำกัน
เธอก้มหน้ารับคำดูถูกเหยียดหยามจากชาวบ้าน สารพัด ... หนำซ้ำปัญหาภายในครอบครัว
ซ้ำเติม ... จนหลายครั้ง ... แม่นอนร้องให้ สะอื้นจนสว่าง
หลายสิปปีต่อมา.... แม่ครู... เสียงชาวบ้านเรียกคุณแม่ เมื่อลูกสาวคนโตเรียนจบและสอบบรรจุครูได้
ที่นาจำนอง และหนี้เงินที่ยืมมา ทยอยคืนเจ้าของเขาไป .... แม่ครู เริ่มมีชีวิตที่ดีขึ้น
ผมเป็นลูกชายคนที่สอง และเป็นลูกชายคนเดียว
ทุกปี ก็มีวันที่ 9 แต่ปีนี้ ตรงกับวันพุธ ซึ่งเป็นวันเกิด ในรอบ 45 ปี
ขอกราบไปยังคุณแม่ ...อ้อ... ลืมบอกไปว่า คุณแม่ชื่อสมถวิล ไกรยา
ณ ขณะที่เขียน คุณแม่ไปเยี่ยมลูกสาวคนแรกของท่าน
นางละเอียด กองแก้ว ซึ่งเป็นครูอยู่ที่โรงเรียนบ้านหนองแสง อ.ศรีสมเด็จ จ.ร้อยเอ็ด
"คงเป็นอย่างที่ผมว่า เรื่องมันยาว อยากเล่าไห้เข้ากับบรรยากาศ วันที่คล้ายวันเกิด ดูแล้วมันคงไม่จบแน่ .... จึงขอจบแบบห้วน ๆ แล้วจะเล่าไหม่ในโอกาสต่อไป "
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น